It looks like you are using an older version of Internet Explorer. Using an outdated browser makes your computer unsafe. For the best experience on the web, please update your browser or install Google Chrome Frame.
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดกลยุทธ์ปี 64 มุ่งสู่ผู้นำด้านการลงทุนครบวงจร

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดกลยุทธ์รุกธุรกิจปี 64 มุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการลงทุนครบวงจร ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการ เสริมทัพองค์กรเร่งพัฒนาบุคลากรทุกสายงานให้แข็งแกร่ง และเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พัฒนางานวิจัยให้ทันสมัย ครอบคลุม ตรงประเด็น พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ESG หวังให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปอย่างก้าวกระโดดท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่สูงให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่าสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2563 ที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯสามารถทำกำไรได้ถึง 484 ล้านบาท หรือเติบโตมากถึง 90.17% ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่านายหน้าที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าวิกฤติการแพร่ระบาดของ Covid-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันการเริ่มต้นปี 2564 ธุรกิจหลักทรัพย์ก็ถือว่าเปิดมาได้อย่างสดใส วอลุ่มเฉลี่ยสูงถึง 99,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับแวดวงตลาดเงินตลาดทุนได้ตั้งแต่ต้นปีอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมตั้งเป้าปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

สำหรับปี 2564 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มีความพร้อมเต็มที่ วางตัวเองให้สมาร์ทพร้อมก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินครบวงจร ครบเครื่องด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายสามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้เป็นอย่างดี พร้อมสร้างทีมและเร่งพัฒนาบุคลากรในสายงานต่างๆให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Equity), บริการตัวแทนซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivatives), บริการด้านการซื้อขายหน่วยลงทุนของบริษัทจัดการกองทุนรวมชั้นนำ (Mutual Fund Selling Agent), บริการลงทุนในต่างประเทศ (Offshore Trading), บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) อีกทั้งทีมวิจัยของ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ก็เพิ่งกวาดรางวัลอันทรงเกียรติจากเวที IAA AWARDS 2020 มาครองได้ถึง 6 รางวัล ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯเป็นอย่างมาก และปีนี้ยังได้อัพเกรดงานวิจัยที่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน นำมาเลือกสรร สรุปประเด็นที่น่าสนใจนำเสนอให้แก่นักลงทุนแบบกระชับ ครอบคลุม รวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย โดยรายการตอนเช้า #ATO Station ผ่านทางเฟสบุ๊คส์ของบริษัทฯ เป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนอย่างมาก มียอดวิว LIVE สูงสุดถึง 3,500 วิวต่อวัน อีกทั้ง เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยังเตรียมส่ง New Business Unit ด้านการบริการวางแผนการลงทุน ที่มีชื่อว่าInvestment Management หรือ IM บริการออกแบบพอร์ตการลงทุน ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ มาช่วยเติมเต็มธุรกิจของเราให้มีความครบเครื่องเรื่องลงทุนมากยิ่งขึ้น  

ในขณะเดียวกัน บริษัทฯตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน หรือ ESG ครอบคลุมสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) เพราะเราเชื่อว่าแนวทาง ESG จะนำมาซึ่งความยั่งยืนสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว ในด้านสิ่งแวดล้อม ทีมงานวิจัยของบริษัทได้จัดทำทำเนียบหุ้นกิจการที่มีการดำเนินธุรกิจที่มีระดับ ESG สูง (ESG Stock List) เพื่อให้ข้อมูลสนับสนุนแก่นักลงทุนที่สนใจหลักทรัพย์โดยคำนึงถึงหลัก ESG ดังกล่าว อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมโครงการ Care The Bear ซึ่งเป็นโครงการด้าน ESG ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเชิญชวนบริษัทจดทะเบียนให้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องการลดโลกร้อน (Climate Change) โดยใช้โปรแกรมการคำนวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ในด้านสังคม เราได้ดำเนินการเรื่องการรณรงค์การลดละเลิกใช้พลาสติก จัดการเรื่องขยะรีไซเคิล และลดปริมาณการใช้กระดาษในองค์กร (Paperless Organization)  และเรากำลังเตรียมวางแผนด้านพัฒนาการเรียนการสอนหลักสูตรความรู้ด้านการเงินการลงทุนเบื้องต้นสำหรับนิสิตนักศึกษา เพื่อช่วยพัฒนาสังคมให้ยั่งยืน นอกจากนี้ ในด้านธรรมาภิบาลบริษัทฯมีการรณรงค์ให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมีจรรยาบรรณทางวิชาชีพอยู่เสมอโดยมีนโยบายการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการกำหนดนโยบายสำคัญต่างๆ อาทิ นโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ (Zero Tolerance Policy), นโยบายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, นโยบายไม่สนับสนุนสินเชื่อในหลักทรัพย์ที่มีประวัติขาดธรรมาภิบาลในวงการตลาดทุน และยังมีโครงการต่างๆภายใต้แนวทาง ESG ออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อมุ่งสร้างให้เป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนตลอดไป     

 

*************************************************