It looks like you are using an older version of Internet Explorer. Using an outdated browser makes your computer unsafe. For the best experience on the web, please update your browser or install Google Chrome Frame.
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 16 ปี ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545-2560 และยังคงเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นแนวหน้าในปัจจุบัน บริษัทดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 31 ปี และให้บริการด้านซื้อขายหลักทรัพย์และแนะนำการลงทุนแก่ลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน บริษัทให้บริการด้านซื้อขายหลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์  กองทุนรวม หุ้นกู้ ตราสารหนี้ การลงทุนในต่างประเทศ  บริการวางแผนการลงทุน บริการด้านวาณิชธนกิจและงานวิจัย ฯลฯ  บริษัท ให้บริการด้วย 29 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมด้วยผู้แนะนำการลงทุนกว่า 500 ราย

บริษัทมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากกระทรวงการคลัง 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน    บริษัทยังได้รับใบอนุญาตการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ธุรกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทเป็นสมาชิกของบริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) และบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) นับว่าบริษัทสามารถให้บริการด้านการลงทุนแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร

บริษัทถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มเมย์แบงก์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มเมย์แบงก์เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีธุรกิจหลัก คือ ธนาคารเมย์แบงก์ (Malayan Banking Berhad หรือ Maybank) ซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซียและเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารเมย์แบงก์ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 60 ปี มีเครือข่ายสาขา 2,400 แห่งใน 20 ประเทศ ณ ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฯลฯ  โดยธนาคารเมย์แบงก์ได้รับการจัดอันดับเป็นธนาคารที่ดีที่สุดในโลกในปี 2563 จาก Global Finance  ธนาคารเมย์แบงก์เป็นธนาคารมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินสูงที่เน้นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจวาณิชธนกิจซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจให้แก่บริษัทฯได้เป็นอย่างดี บริษัทเป็นผู้นำแนวหน้าในตลาดเอเชียและได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายจากหลากหลายองค์กรชั้นนำอย่างต่อเนื่อง 

ประวัติบริษัทฯ

ปี

 ประวัติบริษัทฯ

2533

  • บริษัทเงินทุน นิธิภัทร จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2533

2537

  • บริษัทฯ ได้เข้าเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมายเลข 42 มีคุณสมบัติในการดำเนินงานเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทฯ เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งชมรมค้าตราสารหนี้ (ปัจจุบันคือสมาคมตลาดตราสารหนี้) ซึ่งเริ่มมีการซื้อขายหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น

2540

  • ในเดือนกรกฎาคม วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ประเทศไทยลดค่าเงินบาทลง ต่อมาในเดือนธันวาคม สถาบันการเงิน 56 แห่ง ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลให้ปิดตัวลงอย่างถาวร และด้วยเหตุผลที่ว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่เป็นบริษัทแม่ของบริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เหล่านั้นถูกลบชื่อออกจากตลาดทุนของไทยด้วยเช่นกัน แต่บริษัทหลักทรัพย์ นิธิภัทร จำกัด เป็น 1 ใน 27 บริษัทสมาชิกของสมาคมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ยังคงเปิดกิจการ และรอดพ้นวิกฤตการณ์ในขณะนั้น

2541

  • บริษัท กิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสิงคโปร์ชนะการประมูลในการซื้อบริษัท หลักทรัพย์ นิธิภัทร จำกัด จากองค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน (ป.ร.ส) และมีสิทธิ์ในการบริหารโดยสมบูรณ์ บริษัท กิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสิงคโปร์ ได้ให้ความไว้วางใจให้คณะผู้บริหารเดิมบริหารต่อไป โดยตลอดปีนั้นส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจนติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย

2544

  • บริษัท กิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ จำกัด เข้าทำข้อตกลงซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า เอเซีย ไฟแนนซ์ เซอร์วิส เพื่อซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 77.73% โดยในปีเดียวกันนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มบริการงานด้านที่ปรึกษา การควบรวมกิจการและที่ปรึกษาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยได้จัดตั้งฝ่ายงานวาณิชธนกิจขึ้น

2545

  • หลังจากการควบรวมกิจการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง จำกัด ถือเป็นผู้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ในประเทศไทย   และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2545 บริษัทฯ แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

2546

  • บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการระบบข้อมูลบทวิจัยผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ภายใต้  ชื่อว่า KELive   โดยใช้รูปแบบเดียวกับเว็บไซต์สากล Kelive.com ของทางเครือข่ายบริษัทที่สิงคโปร์
  • เปิดให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ชื่อว่า KETrade
  • บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2546
  • หลักทรัพย์ของบริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ใน ดัชนี MSCI และดัชนี SET 50

2547

  • พัฒนาระบบข้อมูลบทวิจัย KELive TV ให้สามารถรับชมบทวิจัยได้ทั้งภาพและเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต นับเป็นโบรกเกอร์ไทยรายแรกที่มีอินเทอร์เน็ตทีวีที่สามารถรับชมการวิเคราะห์หลักทรัพย์

2548

  • บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จากสำนักงาน กลต. เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2548 และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2548

 2551

  • บริษัทฯ เปิดให้บริการ ธุรกิจบริการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ Securities Borrowing and Lending (SBL) เพื่อเพิ่มการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร

2552

  • เปิดให้บริการการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้า Gold Futures

2553

  • บริษัทฯ เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์เพื่อเข้าซื้อขายในกระดานเป็นครั้งแรก  

2554

  • กลุ่มเมย์แบงก์ (Malayan Banking Berhad หรือ Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ได้เข้าซื้อกิจการจาก บริษัท กิมเอ็ง โฮลดิ้ง ประเทศสิงค์โปร์ ส่งผลให้บริษัทฯ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มเมย์แบงก์ 

2555

  • บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด  เพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว เป็น AA(tha) จาก AA-(tha) และอันดับเครดิตระยะสั้นภายในประเทศที่ F1+(tha) ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2555

2561

  • บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด  เพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว เป็น AA+(tha) ซึ่งเทียบเท่าธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 4 แห่ง  และอันดับเครดิตระยะสั้นภายในประเทศที่ F1+(tha) ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 

 

วิสัยทัศน์

เติบโตในอาเซียนไปกับคุณ

พันธกิจ

พันธกิจของเราคือการให้บริการด้านการลงทุนด้วยความรู้และคำแนะนำตามปัจจัยพื้นฐาน และการส่งคำสั่งซื้อขายที่ฉับไวเข้าถึงง่าย